การเลือกสุนัขมาเลี้ยงสักตัว บางทีก็เป็นเรื่องที่หลายๆคนอาจจะใช้ความคิดไม่นาน แต่บางคนก็อาจจะคิดนานหลายวัน วันนี้ผมจะมาแนะนำถึงการเลือกสุนัขมาเลี้ยงสักตัวนะครับ
ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่า เราจะเลี้ยงสุนัขเพื่ออะไร ยกตัวอย่างเช่น ต้องการเอามาเลี้ยงเพื่อคลายเหงา ต้องการเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่น หรือต้องการเลี้ยงเพื่อเฝ้าบ้าน ซึ่งวัตถุประสงค์ หรือความต้องการของเรานั้น มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการเลือกสายพันธุ์ สุนัขที่เหมาะกับสิ่งที่เราต้องการ หากเราต้องการเลี้ยงสุนัข เพื่อคลายเหงา แต่มีพื้นที่การเลี้ยงไม่มากนัก เราอาจจะเลือกสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ปอมเมอเรเนี่ยน ชิสุห์ พูเดิ้ล แต่หากเรามีพื้นที่มากยิ่งขึ้น อาจจะหาพันธุ์ที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย เช่น โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ไซบีเรียนฮัสกี้ หรือ เชาเชา แต่หากต้องการสุนัขที่เอาไว้เฝ้าบ้าน ก็จะเป็นสุนัขที่มีคุณลักษณะที่เหมาะสม เช่น ร็อตไวเลอร์ อัลเซเชี่ยน ไทยหลังอาน หรือบางแก้ว ซึ่งสุนัขเหล่านี้ ก็จะมีขายอยู่ทั่วๆไป ตามฟาร์ม หรือแหล่งต่างๆ
สิ่งที่ควรจะนึกถึงนอกจากสายพันธุ์ก็คือ ต้องรู้ว่า เรามีความพร้อมให้เค้าหรือไม่ ความพร้อมในที่นี้หมายถึง ความรับผิดชอบที่จะดูแลเค้าได้ประมาณ 10-20 ปี หลายคนอาจจะคิดว่าทำไมนานจัง ก็เป็นเพราะว่า ช่วงอายุของสุนัขจะอยู่ในช่วงระยะเวลานี้ (เลี้ยงแล้ว เลี้ยงให้ตลอดนะครับ) เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากเลยทีเดียวเพราะปัจจุบัน ค่ารักษาพยาบาลสัตว์ ค่าอุปกรณ์การเลี้ยง ค่าอาหาร ค่าขนม ก็ราคาไม่ใช่เล่นๆ นะครับ ต่อมาก็เรื่องพื้นที่สุนัข แต่ละสายพันธุ์ มีความต้องการขนาดของพื้นที่แตกต่างกัน ตามขนาดตัวนะครับ ตัวใหญ่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่เอาไว้ออกกำลังกายนะครับ การจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไหน ก็ต้องศึกษากันนะครับว่าพื้นที่ของเราเหมาะสมหรือไม่ อีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญและอยากให้เจ้าของมือใหม่ได้ศึกษาคือ โรคประจำพันธุ์ สุนัขในแต่ละพันธุ์ จะมีโรคที่สุนัขพันธุ์นั้นๆมีความเสี่ยงที่จะเป็นมากกว่าพันธุ์อื่น เช่น สุนัขพันธุ์ปั๊ก อาจจะมีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจ โรคตา หรือโรคสะโพก เป็นต้น ดังนั้นเราต้องดูความพร้อมของตัวเรา 4 ข้อ คือ เวลา เงิน พื้นที่ และศึกษาเกี่ยวกับสายพันธุ์ที่จะนำมาเลี้ยงดีพอหรือยังนะครับ
เรื่องสุขภาพของสุนัขที่จะนำมาเลี้ยงก็สำคัญ สุนัขราคาแพงไม่ได้แปลว่าเป็นสุนัขที่ (สุขภาพ) ดี เราจะต้องเริ่มสังเกตจากส่วนต่างๆของร่างกายตั้งแต่หัวจรดหางดังนี้ ตา จะต้องไม่มีขี้ตา ไม่มีคราบน้ำตา มีแววตาสดใส จมูกจะต้องมีความชื้น ไม่มีน้ำมูก รูจมูกไม่ตีบตัน ไม่มีเสียงหายใจผิดปกติ ฟัน ต้องมีลักษณะฟันบนคร่อมฟันล่างแบบสมส่วน ไม่มีลักษณะของกรามยื่น เยื่อเมือกต่างๆทั้งเหงือก และตา มีสีชมพู ลิ้นจะต้องอยู่ตรงกลางสมมาตร ไม่ออกมาจากปากข้างใดข้างหนึ่ง หู จะต้องสะอาดไม่มีกลิ่นเหม็น หรือไม่เห็บหมัด หัว จะต้องสมส่วนกับลำตัวและสายพันธุ์ หลังจะต้องตรง ไม่มีอาการหลังโก่ง ขาหน้าจะต้องตรงเสมอกัน ปลายเท้าไม่ชี้เข้าหรือชี้ออก อุ้งเท้าใหญ่ (สำหรับสุนัขพันธุ์ใหญ่) ขาหลัง ต้องเดินมั่นคง มีแรงลุกขึ้น และนั่ง อย่างไม่ติดขัด เดินก้นไม่ส่ายไปมา ขาในรูปการยืนหากมองจากทางด้านหลังจะต้องตรง ไม่โก่ง ก้นสะอาด รูก้นไม่แดง หางจะต้องตรงตามสายพันธุ์ สภาพขนจะต้องมีความเงางาม ไม่แห้งจนเกินไป ทั้งนี้ ขึ้นกับลักษณะประจำพันธุ์ เมื่อตรวจดูร่างกายแล้ว อุปนิสัยของลูกสุนัขส่วนใหญ่ก็จะซน ร่างเริง อายุที่ควรจะนำมาเลี้ยงก็ไม่ควรจะต่ำกว่า 2 เดือน ได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้ว 1 เข็ม โดยจะเป็นวัคซีนรวม 5 โรค หากได้ลูกสุนัขที่ตรงใจ ราคาใช้ได้เหมาะกับเรา ก็ถือว่าเค้าพร้อมจะมาอยู่กับเราแล้วหละครับ
ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหน สุนัขก็จะมีความรัก ให้กับเจ้าของมากไม่แตกต่างกัน บางครั้งสุนัขพันธุ์ผสมที่เราเก็บมาเลี้ยง อาจจะเป็นพันธุ์ที่เหมาะสมกับการเลี้ยงในบ้านเรามากที่สุดก็เป็นไปได้ เพราะแข็งแรง (คัดเลือกมาอย่างดีจากธรรมชาติ) เลี้ยงง่าย และเป็นน่ารักเหมือนกัน แต่สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการที่จะมีสุนัขสักตัวเข้ามาในชีวิตก็คือ ความรับผิดชอบ ต่อชีวิตของเค้านะครับ “รักสัตว์ อย่าทิ้งสัตว์”
ที่มา : อ.น.สพ.ดร.ชัยกร ฐิติญาณพร สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์